บทที่ 19
การละหมาด
อินนัซซ่อลาต้า กานัต อ้าลั้ลมุมี้นีน่า กี้ตาบันเมากูตัน
( แท้จริงการละหมาดนั้นเป็นฟัรดูแก่มุอฺมินโดยมีกำหนดเวลาแน่นอน )
อัสซ่อลาห์ คือ การนมัสการกราบต่ออัลลอฮฺวายิบเหนือมุสลิมทุกคนทั้งชายและหญิง วันหนึ่งกับคืนหนึ่งมี 5 เวลา เป็นประจำ โดยกล่าวด้วยวาจา ปฏิบัติด้วยร่างกายพร้อมด้วยใจ แน่วแน่ นอบน้อม ถ่อมตน มุ่งตรงต่ออัลลอฮฺ ทั้งต้องถูกด้วยระเบียบ ข้อบังคับ และกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งเริ่มจากคำว่า ( อัลลอฮฺอักบัร ) และไปสิ้นสุดที่คำว่า ( อัสสลามมุอ้าลัยกุม ) ย่อมเป็นประทีปดวงเด่นที่มุสลินต้องเทอดไว้ ทั้งยังเป็มสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าบ่าวที่ดีนั้นต้องเข้าหาอัลลอฮฺ ด้วยการนมัสการละหมาดเพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของท่าน ที่ให้ความกรุณา เมตตาอย่างมากมายและยังเป็นการจำแนกได้ ว่าแต่ละคนนั้นเป็นมุสลิมหรือกาเฟร จะอยู่ในข่ายแห่งความดีหรือจะอยู่ในปลักแห่งความชั่ว ผู้ที่รักษาไว้ได้ตามเวลาที่กำหนดย่อมได้ชื่อว่า เป็นผู้ประเสริฐผู้ที่ทอดทิ้งหรือละเว้นเสียย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้หายนะ และยังถูกประณามว่าเป็นผู้ทำลายศาสนาอีหด้วย ฉะนั้นผู้ที่เจริญและอีหม่านที่แข็งแกร่งแล้ว เขาจะลืมการนมัสการละหมาดไม่ได้เลย
อัสซ่อลาห์นั้น อัลลอฮฺได้ทรงฟัรดูละหมาดในคืนเมี๊ยะอ์ราจแก่ท่านนบีมูฮำหมัด ( ซ.ล. ) อันเป็นที่รักของพระองค์ และดำรงไว้ในตำแหน่งที่สูงยิ่ง อัลลอฮฺได้ทรงย้ำอย่างแม่นซึ่งปรากฎในคัมภีร์อัลกุรอ่านหลายแห่ง ทั้งนี้เป็นการกำชับให้ตระหนักในคำสั่งของพระองค์ว่า ละหมาดนั้นมีความสำคัญอย่างไร จะได้รับผลสนองเพียงไหนหากปฏิบัติครบถ้วน และจะได้รัยโทษประการใดหากทอดทิ้งไม่นำมาปฏิบัติ
กฎเกณฑ์ของผู้ที่วายิบต้องทำละหมาด มี 6 ประการ
1.ต้องเป็นผู้ศรัทธาในศาสนาอิสลามเรียกว่ามุสลิม
2.ต้องเป็นผู้บรรลุนิติภาวะ ตามศาสนบัญญัติบังคับ
3.ต้องเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ
4.หญิงที่ปราศจากเฮดและนิฟาส
5.ต้องเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยสัมผัสทั้ง 5 แต่ไม่วายิบแก่ผู้ที่บอด หรือ หนวกมาแต่ก่อนรู้จักเดียงสา(มู่มัยยิซ)
6.คำประกาศศาสนาของนบีมูฮำหมัด( ซ ล) ไปถึงผู้นั้นแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น