วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ประวัติย่อของนบีอิบรอฮีม ( อ. )


ประวัติย่อของนบีอิบรอฮีม ( อ. )
          ท่านนบีอิบรอฮีม ( อ. ) สืบเชื้อสายมาจากนบีนัวห์ ( อ. ) และเป็นต้นตระกูลของอาหรับและอิสรออีล ท่านถือกำเนิดในประเทศอิรัค ท่ามกลางเจ้าเมืองซึ่งถืออำนาจเด็ดขาด ยึดถือเอารูปปั้นเป็นสิ่งสักการะ บิดาของท่านชื่อ อาซาร มีอาชีพแกะสลักรูปปั้นต่างๆ
          เมื่อท่านอายุ 40 ปี อัลลอฮ์ ( ซ.. ) แต่งตั้งให้เป็นศาสนทูตสมัยที่นัมรูดเป็นผู้ที่มีอำนาจเด็ดขาด ท่านชักชวนบิดาให้มาสักการะต่ออัลลอฮ์ ( ซ.. ) พระผู้เป็นเจ้าเพียงองค์เดียวเป็นคนแรก แต่บิดาของท่านปฏิเสธ และห้ามท่านมิให้ดูหมิ่นเหยีอดหยามรูปปั้นทั้งหลาย
          หลังจากที่ท่านตำหนิการสักการะรูปปั้นแล้ว ประชาชนได้มาขอพบท่าน เพื่อซักถามข้อเท็จจริงในการศรัทธา ท่านนบีอิบรอฮีม ( อ. ) จึงถามพวกนั้นว่า ( พวกท่านสักการะอะไรในศาสนาของท่าน ) พวกนั้นตอบว่า ( เราสักการะรูปปั้น ตามที่ปู่ยาตายายนับถือกันมาแต่กาลก่อน ) นบีอิบรอฮีม ( อ. ) จึงตอบว่า ( รูปปั้นที่พวกท่านสักการะนั้นหาทำประโยชน์แก่พวกท่านแต่อย่างใดไม่ อัลลอฮ์องค์เดียวเท่านั้นที่สร้างพวกเรา ให้อาหารแก่พวกท่าน ให้การช่วยเหลือพวกท่าน และสามารถทำให้พวกเจ้าเป็นและตายได้ ) และท่านให้สัญญากับพวกเข้าว่า จะทำลายรูปปั้นเหล่านั้นให้หมดสิ้น เมื่อเจ้าเมืองนัมรูดทราบข่าวว่า นบีอิบรอฮีม ( อ. ) ประกาศศาสนายิ่งขึ้น จึงเชิญมาพบและถามว่า ( ใครเป็นพระเจ้าของท่าน ) ท่านตอบว่า ( พระเจ้าของข้า สามารถทำให้เป็นและตายได้ ) นัมรูดตอบว่า ( ข้าก็สามารถทำให้เป็นและตายได้เหมือนกัน ) โดยเขาเอาชายมาสองคน แล้วฆ่าหนึ่งคน ไม่ฆ่าหนึ่งคน เพื่อทำให้เห็นว่าเขาทำให้คนเป็นและตายได้ ท่านนบีอิบรอฮีม ( อ. ) กล่าวต่อไปว่า ( แท้จริงอัลลอฮ์ พระผู้เป็นเจ้าของข้า ทำให้ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก และให้มาตกทางทิศตะวันตก ท่านจงเปลี่ยนให้ไปขึ้นทางทิศตะวันตก และมาตกทางทิศตะวันออกได้ไหม ) เพราะไม่มีพลังความสามารถที่จะทำให้สิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทำได้
            ต่อมาท่านฉวยโอกาสตอนที่พวกนั้น จัดงานรื่นเริงวันตรุษอย่างมโหฬาร เข้าไปทำลายรูปปั้นที่พวกนัมรูดสักการะ ตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ ด้วยการใช้ขวานทำลายรูปปั้นจนหมดสิ้น นอกจากรูปปั้นใหญ่ ซึ่งท่านเอาขวานแขวนคอของมัน เพื่อให้ดูเหมือนว่ารูปปั้นใหญ่เป็นผู้ทำลายรูปปั้นเล็กๆ เหล่านั้น
           เมื่อพวกนัมรูด ได้มายังสถานที่สักการะ พวกเขาเห็นรูปปั้นทั้งหลายถูกทำลายอย่างไม่มีชิ้นดี พวกนั้นก็มั่นใจว่าไม่มีใครที่จะมาทำลายนอกจากนบีอิบรอฮีม ( อ. ) มาสอบถาม ท่านได้ตอบว่า ( รูปปั้นรูปใหญ่นั้นเป็นผู้ทำลาย จงถามมันดูสิว่า ใครเป็นผู้ทำลาย หากมันพูดได้ ) ทำให้พวกนั้นยิ่งมั่นใจว่า ท่านคือผู้ที่ทำลายรูปปั้นของพวกเขา จึงมีมติให้เผานบีอิบรอฮีม ( อ. ) ทั้งเป็น เพื่อให้สาสมกับที่เป็นผู้ทำลายรูปปั้น และประกาศให้ประชาชนทั้งเมือง ช่วยกันขนฟืนมาเพื่อก่อกองไฟ เมื่อพวกเขาได้ก่อกองไฟจนเกิดความร้อนสูง ไม่สามารถนำนบีอิบรอฮีม ( อ. ) เข้าไปในกองไฟได้ จึงสั่งให้ใช้กระดานยกโยนท่านเข้าไปในกองไฟ อัลลอฮื ( ซ.. ) มีบัญชาแก่ไฟว่า ( เจ้าจงเย็นและให้ความปลอดภัยแก่นบีอิบรอฮีม ) และท่านจึงได้รับความปลอดภัย แม้กองไฟจะลุกมหึมาเพียงใดก็ตาม ไม่ทำให้เกิดความร้อนแต่อย่างใด นี่คือพลังอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า เป็นมัวะอ์ญิซาตที่พระองค์ทรงประทานให้แก่นบีอิบรอฮีม ( อ. )  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น